เมนู

8. มหาหัตถิปโทปมสูตร


[340] ข้าพเจ้าได้ฟังมาแล้วอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. สมัยนั้น ท่านพระสารีบุตรเรียก
ภิกษุทั้งหลายมาว่า ดูก่อนผู้มีอายุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นรับคำของท่านพระ-
สารีบุตรแล้ว.
พระสารีบุตรได้กล่าวว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย รอยเท้าเหล่าใด
เหล่าหนึ่งแห่งสัตว์ทั้งหลายผู้เทียวไปบนแผ่นดิน รอยเท้าเหล่านั้นทั้งหมด
ย่อมประชุมลงในรอยเท้าช้าง รอยเท้าช้างชาวโลกย่อมกล่าวว่า เป็นยอดของ
รอยเท้าเหล่านั้น เพราะรอยเท้าช้างเป็นรอยใหญ่ แม้ฉันใด ดูก่อนท่านผู้มีอายุ
ทั้งหลาย กุศลธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่ง กุศลธรรมเหล่านั้นทั้งหมด ย่อม
สงเคราะห์เข้าในอริยสัจสี่ ฉันนั้นเหมือนกันแล. อริยสัจสี่เหล่าไหน. คือ
ทุกขอริยสัจ ทุกขสมุทัยอริยสัจ ทุกขนิโรธอริยสัจ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา
อริยสัจ.
[341] ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ก็ทุกขอริยสัจเป็นไฉน. แม้ความ
เกิดเป็นทุกข์ แม้ความแก่เป็นทุกข์ แม้ความตายเป็นทุกข์ แม้ความโศก
ความรำพัน ความทุกข์กาย ความทุกข์ใจ ความคับแค้นใจก็เป็นทุกข์ แม้
ความที่ไม่ได้สิ่งที่ตนอยากได้ก็เป็นทุกข์ โดยย่ออุปาทานขันธ์ 5 เป็นทุกข์. ก็
อุปาทานขันธ์ห้าเป็นไฉน. คือ อุปาทานขันธ์คือรูป อุปาทานขันธ์คือเวทนา
อุปาทานขันธ์คือสัญญา อุปาทานขันธ์คือสังขาร อุปาทานขันธ์คือวิญญาณ.
ก็อุปาทานขันธ์คือรูปเป็นไฉน. คือ มหาภูตรูป 4 และรูปที่อาศัยมหาภูตรูป 4.